ทอนซิลอักเสบ tonsillitis
ทุพโภชนาการ malnutrition
ภาวะเสียความจำ amnesia
ภาวะน้ำตาลสูงในเลือด hyperglycaemia หรือ hypergly...
ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด hypoglycaemia หรือ hypoglyce...
เต้านมอักเสบ mammitis
ทำหมัน sterilise หรือ sterilize
ผู้ป่วยนอก outpatient
ผู้ป่วยใน inpatient
พูดติดอ่าง stammer
ยาธาตุ digestive tonic
ยานอนหลับ hypnotic
ยาดม inhalant
ยาชา local anaesthetic
ภาวะประสาทหลอน hallucinosis
ภาวะเบื่ออาหาร anorexia
ฟันผุ caries
ฟันคุด impacted tooth
ฟันเขยิน extrusion
ฟันเก snaggle tooth ภูมิแพ้ allergy
ภาวะไตวาย,ภาวะไตล้มเหลว renal failure
ภาวะขาดออกซิเจน anoxia
ภาวะขาดน้ำ dehydration
ปลาสเตอร์ plaster
ประสาทอักเสบ neuritis
ประวัติผู้ป่วย case history
ประจำเดือน,ระดู menstruation
ปฐมพยาบาล first aid
ใบสั่งยา prescription
เบาหวาน diabetes
บาดแผล wound
บาดทะยัก tetanic
บวม swell
ผ่อนคลาย relax
บรรเทา,บรรเทาเจ็บ relieve
เนื้องอก,ก้อน tumor หรือ tumour
นิ่ว stone
น้ำอสุจิ semen
น้ำหนักเกิน overweight
น้ำหนวก otorrhea หรือ otorrhoea
น้ำเหลืองของเลือด serum
น้ำเลือด blood
น้ำลาย saliva
น้ำมูกไหล rhinorrhea หรือ rhinorrhoea
น้ำตา tear
น้ำกาม semen
ยาแก้อักเสบ anti-inflammatory
ยาแก้ท้องร่วง antidiarrheic หรือ antidiarrhoeic
ยาแก้คัน antipruritic
ดื้อยา drug-resistant
ดื้อการรักษา refractory
ต่อมไร้ท่อ ductless gland
ต้อหิน glaucoma
ตะคริว cramp
ซีพีอาร์ (การนวดหัวใจและผายปอดเพื่อช่วยชีวิต) CPR ...
ซิฟิลิส syphilitic หรือ syphilous
ชีพจร pulse
ชายรักร่วมเพศ gay
ชรา senile หรือ senility
เฉื่อยชา torpid
เจ็บ sore
จุดบอดในจอตา blind spot
จิตไร้สำนึก unconscious
จับเป็นก้อนหรือลิ่ม coagulate
งัวเงีย subwaking
ฆ่าเชื้อ disinfect
คนเผือก albino
คนปัญญาอ่อน idiot หรือ moron หรือ imbecile
คนใบ้ mute
คนตาบอดสี achromat หรือ monochromat
คนไข้ Patient
การตรวจร่างกาย Physical examination
ไข้เหลือง Yellow fever
ไข้หวัดใหญ่ Influenza
ไข้หวัด Common cold
ไข้ส่า Exanthematous fever
ไข้เลือดออก Haemorrhagic fever หรือ Hemorrhagic f...
ไข้ละอองฟาง Hay fever
ไข้ลมพิษ Urticarial fever
ไข้รูมาติก Fheumatic fever
ไข้รากสาดใหญ่ หรือ ไข้ไทฟัส Typhus fever
ไข้รากสาดน้อย หรือ ไข้ไทฟอยด์ Typhoid fever
ไข้ไม่สร่าง Continued fever
ไข้ป่า Jungle fever
ไข้ทรพิษ,ฝีดาษ Variolar หรือ Variolic
ไข้แดด Sunstroke หรือ Insolation
ไข้จับสั่น,ไข้มาลาเรีย Malaria
ไข้กาฬหลังแอ่น,ไข้กาฬนกนางแอ่น Cerebrospinafeve...
ไข้กาฬ Exanthematous fever
ไข้กลับ Recurrent fever
ไข้ Fever
ไข่ Egg หรือ Ovum
ไขสันหลังอักเสบ Myelitis
ขี้หู Cerumen หรือ Earwax
การตรวจปัสสาวะ Urinalysis
การตรวจวัดสายตา Optometry
การตัดไข่ Spaying
การตกเลือดกำเดา nosebleed
การตกเลือด Bleeding
การตกไข่ Ovulation หรือ Ovification
การได้ยิน Audition
การดูดนม Lactation
การดาม Splinting การดมยา Inhalation
การดมกลิ่น Olfaction
การชิม,การรับรู้รส Gustation,Degustation
การชา Anaesthesia หรือ Anesthesia
การชักกรตุก Spasm
การชัก Convulsion
การฉีด Injection
การฉายรังสี Radiation
การจาม Sneeze
การฆ่าตัวตาย Suicide
การฆ่าเชื้อ Disinfection
การคุมกำเนิด Birth control
การคัดหลั่ง Secretion
การคลอดก่อนกำหนด Premature labour
การคลอด Delivery
การเขม่น Twitch
การขาดอาหาร Innutrition
การขาดอากาศหายใจ Suffocation
การขาด Deficiency
การขาก Expectoration
การขับปัสสาวะ Diuresis
การขันชะเนาะ tourniquet
การขจัดพิษ Detoxication หรือ Detoxification
การเกิดลมพิษ Urtication
การเกิดแผลเปื่อย Ulceration
การเกิดแผลเป็น Scar formation
การเกิดผื่นนูน Papulation
การเกิดตุ่มหนอง Pustulation
การก่อมะเร็ง Carcinogenesis
การก่อมลพิษ Pollution
การกระตุก Jerk
การกระตุกกล้ามเนื้อ Twitch
การกด Suppression
กายภาพบำบัด Physical Therapy
กายบริหารบำบัด Therapeutic exercise
กายบริหาร Exercise
กามโรค (วีดี ) Veneral Disease ( VD )
ก้อนบวม Swell
ก่อมะเร็ง Carcinogenic
กระดูกอักเสบ Osteitis หรือ Ostitis
กลิ่นปากเหม็น saburra
กล้ามเนื้ออักเสบ myitis หรือ myositis.
กลัวแสง photophobia
กระเพาะอักเสบ gastritis
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ cystitis หรือ urocystitis
กระดูกหัก fracture
กระดูกสันหลังอักเสบ spondylitis
กระดูกสันหลังเคลื่อน spondylolisthesis หรือ spondy...
กระดูกแตก fracture
ขี้กลาก ringworm หรือ tinea
ขาดอาหาร malnourished
ขาโก่ง bow leg
ขับเสมหะ expectorant
ขับเลือด,ขับระดู haemagogic
ขับลม carminative
ขับปัสสาวะ uretic
ข้ออักเสบรูมาติก rheumarthrosis
ข้ออักเสบ arthritis
กระดูกเดาะ greenstick fracture
นางสาวดาริกา เขื่อนสอน รหัส52050865
คณะวิทยาศาสตร์
สาขาเคมีทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ที่มา http://dictionaryfordoctor.blogspot.com
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552
คำศัพท์ทางการแพทย์
เขียนโดย bo-darika ที่ 02:35 0 ความคิดเห็น
วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552
คำศัพท์คณิตศาสตร์
กรวย (cone)
รูปทรงใด ๆ ที่มีฐานเป็นรูปวงกลมหรือวงรี และผิวประกอบด้วยส่วนของเส้นครงซึ่งโยงระหว่างจุดบนเส้นรอบวงของวงกลม หรือวงรีกับจุดคงที่จุดหนึ่งซึ่งไม่อยู่ในระนาบเดียวกับฐาน
กราฟของความสัมพันธ์ (graph of a relation)
เซตของจุดในระนาบซึ่งแต่ละจุดแทนคู่อันดับในความสัมพันธ์นั้น
กราฟกึ่งลอการิทึม(semi - logarithm graph)
กราฟที่มีมาตราส่วนบนแกนนอนเป็นมาตราส่วนเลขคณิต และบนแกนตั้งเป็นมาตราส่วนลอการิทึม
กราฟเชิงซ้อน(multiple line graph)
กราฟแสดงการเปรียบเทียบลักษณะข้อมูลที่สนใจศึกษาตั้งแต่ 2 ลักษณะขึ้นไป
กราฟเชิงประกอบ(composite line graph)
กราฟที่ใช้แสดงรายละเอียดหรือส่วนย่อยของข้อมูลที่นำเสนอในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ กัน
กราฟดุล (balance graph)
กราฟที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างลักษณะของข้อมูลสองลักษณะที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน เช่น รายรับ รายจ่าย
กราฟเส้นเชิงเดียว(simple line graph)
กราฟที่แสดงการเปรียบเทียบลักษณะของข้อมูลที่สนใจศึกษาเพียงลักษณะเดียว
กรูป (group)
เซต G และ โอเปอเรชันอย่างหนึ่ง พร้อมทั้งคุณสมบัติต่อไปนี้ ให้ * เป็นโอเปอเรชัน
1. คุณสมบัติปิด 2. คุณสมบัติการเปลี่ยนกลุ่มได้ 3. เอกลักษณ์มี ซึ่งทำให้ สำหรับ 4. อินเวอร์ส สำหรับสมาชิก แต่ละตัวจะมี ซึ่ง
การกระจายสัมพัทธ์ (relative variation)
การวัดการกระจายของข้อมูลแต่ละชุด เพื่อนำไปใช้ในการเปรียบเทียบการกระจายกับข้อมูลชุดอื่น ๆ การกระจายสัมพัทธ์มี 4 ชนิดคือ
1. สัมประสิทธิ์ของพิสัย
2. สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์
3. สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย
4. สัมประสิทธิ์ของการแปรผัน
การแจกแจงความถี่ (frequency distribution)
รูปแบบการกระจายของความถี่ของค่าจากการสังเกตทั้งหมด
การแจงนับอย่างครบถ้วน (complete enumeration)
การเก็บรวบรวมข้อมูลของทุกหน่วยของประชากรที่สนใจศึกษา
การทดลองสุ่ม (random experiment)
การทดลองที่ทราบผลลัพธ์ว่าจะเป็นอะไรได้ บ้าง แต่ไม่สามารถจะพยากรณ์ผลที่จะเกิดขึ้นในแต่ละครั้งว่า จะเป็นอะไรในบรรดาผลลัพธ์ที่อาจเป็นได้เหล่านั้น
การแปรผกผัน (inverse variation)
เมื่อ x และ y แทนปริมาณใด ๆ y แปรผกผันกับ x เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ หมายถึง เมื่อ k เป็นค่าคงตัวและ k # 0
การแปรผันเกี่ยวเนื่อง (joint variation)
เมื่อ x, y และ z แทนปริมาณใด ๆ x แปรผันเกี่ยวเนื่องกับ y และ z แทนด้วยสัญลักษณ์ หมายถึง เมื่อ k เป็นค่าคงตัวและ k # 0
การแปรผันโดยตรง (direct variation)
เมื่อ x และ y แทนปริมาณใด ๆ y แปรผันโดยตรงเป็น x เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ หมายถึง เมื่อ k เป็นค่าคงตัวและ k # 0
การสุ่มตัวอย่าง (random sampling)
การเลือกตัวอย่างสมาชิกของประชากรโดยที่ทุกสมาชิกในกลุ่มมีโอกาสได้รับเลือกเท่า ๆ กัน โดยไม่เจาะจง
กำลังสอง(square)
กำลังสองของจำนวนจริง x ใด ๆ หมายถึง เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ โดยมี 2 เป็นเลขชี้กำลัง
กำลังสองสมบูรณ์ (perfect square)
กำลังสองของจำนวนหรือของพหุนาม
แกนจริง, แกนจำนวนจริง (real axis ,real number axis)
แกนนอนของระนาบเชิงซ้อน
แกนจินตภาพ (imaginary axis)
แกนตั้งของระนาบเชิงซ้อน
ขนาดของเวกเตอร์ (magnitude of a vector)
ความยาวของส่วนของเส้นตรงที่มีทิศทางแทนเวกเตอร์นั้น โดยวัดจากจุดเริ่มต้นถึงจุดปลายของเวกเตอร์
ข้อความที่สมมูลกัน (equivalent statements)
ข้อความสองข้อความที่มีค่าความจริงเหมือนกันทุกกรณี กรณีต่อกรณี
ข้อมูลที่ได้แจกแจงความถี่แล้ว (group data)
ข้อมูลที่แจกแจงความถี่ตามค่าที่เป็นไปได้
ขอบบน (upper boundary)
ค่ากึ่งกลางระหว่างค่าที่มากที่สุดในอันตรภาคชั้นนั้นกับค่าที่น้อยที่สุดของอันตรภาคชั้นถัดไปชั้นหนึ่ง
ขอบล่าง (lower boundary)
ค่ากึ่งกลางระหว่างค่าที่มากที่สุดในอันตรภาคชั้นก่อนหน้านั้นหนึ่งชั้น กับค่าที่น้อยที่สุดของอันตรภาคชั้นนั้น
ข้อมูลสถิติ (statistical data)
ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลขหรือไม่ใช่ตัวเลขเกี่ยวกับเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่เราสนใจ และข้อเท็จจริงนั้นจะต้องมีเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการแสดงถึงลักษณะของกลุ่ม หรือส่วนรวมสามารถนำไปใช้ในการเปรียบเทียบและตีความหมายได้
ข้อมูลอนุกรมเวลา (time series data)
ข้อมูลที่แสดงการเปลี่ยนแปลงตามลำดับของเวลา เช่น ปริมาณข้าวที่ประเทศไทยผลิตได้ในแต่ละปี เป็นต้น
ควอร์ไทล์ (quartile)
ค่า 3 ค่าที่แบ่งข้อมูลออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน เรียกค่าทั้ง 3 ว่า ควอร์ไทล์ที่ 1 (Q1) ควอร์ไทล์ที่ 2 (Q2) (หรือค่ามัธยฐาน) และควอร์ไทล์ที่ 3 (Q3)
ความถี่ (frequency)
จำนวนครั้งที่เกิดขึ้นของเหตุการณ์ที่กำหนดให้ หรือจำนวนค่าจากการสังเกตของข้อมูล ที่ตกอยู่ในอันตรภาคชั้นที่กล่าวถึง
ความถี่สะสม (cumulative frequency)
ความถี่สะสมของค่าที่เป็นไปได้ค่าใด หรือของอันตรภาคชั้นใด หมายถึงผลรวมของความถี่ของค่านั้นหรือของอันตรภาคชั้นนั้น กับความถี่ของค่าหรืออันตรภาคชั้นที่ต่ำกว่าทั้งหมด หรือ สูงกว่าทั้งหมดอย่างใดอย่างหนึ่ง
ความถี่สะสมสัมพัทธ์ (relative cumulative frequency)
ความถี่สะสมสัมพัทธ์ของค่าที่เป็นไปได้ค่าใด หรืออันตรภาคชั้นใด คืออัตราส่วนระหว่างความถี่สะสมของค่านั้น หรืออันครภาคชั้นนั้นกับผลรวมของความถี่ทั้งหมด อาจแสดงในรูปเศษส่วนทศนิยม หรือร้อยละ
ความถี่สัมพัทธ์ (relative frequency)
ความถี่สัมพัทธ์ของค่าใดหรืออันตรภาคชั้นใดคือ อัตราส่วนระหว่างความถี่สะสมของค่านั้น หรืออันตรภาคชั้นนั้นกับความถี่ทั้งหมด อาจจะแสดงอยู่ในรูปเศษส่วนทศนิยม หรือร้อยละ
ความน่าจะเป็น (probability)
อัตราส่วนระหว่างจำนวนสมาชิกของเหตุการณ์ที่สนใจ กับจำนวนสมาชิกของแซมเปิลสเปซที่เป็นเซตจำกัด และสมาชิกเหล่านั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้เท่า ๆ กัน
ความแปรปรวน (variance)
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานยกกำลังสอง
ความแปรปรวนรวม (combined variance , pooled variance)
ความแปรปรวนถ่วงน้ำหนักของความแปรปรวนของข้อมูลหลาย ๆ ชุดโดยมีจำนวนค่าจากการสังเกตในข้อมูลแต่ละชุดเป็นน้ำหนักถ่วง
ความยาวรอบรูป (perimeter)
ความยาวโดยรอบรูป 2 มิติ เช่น ความยาวรอบรูปวงกลม รูปสามเหลี่ยม เป็นต้น
ความยาวรอบวง (circumference)
ความยาวรอบรูปวงกลม
ความสัมพันธ์ (relation)
เซตของคู่อันดับเช่น {(1, 2), (2, 3), (3, 4) }
คอมพลีเมนต์ของเซต (complement of a set)
ถ้าเซต A เป็นสับเซตของเอกภพสัมพันธ์ U คอมพลีเมนต์ของเซต A เมื่อเทียบกับ U เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ A' คือ เซตที่มีสมาชิกอยู่ใน U แต่ไม่อยู่ใน A
คอมพลีเมนต์ของเหตุการณ์ (complement of an event)
ถ้า E เป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในแซมเปิลสเปซ S แล้ว คอมพลีเมนต์ของเหตุการณ์ E เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ E' คือเหตุการณ์ที่ประกอบด้วยสมาชิกที่อยู่ใน S แต่ไม่อยู่ใน E
คอร์ด (chord)
ส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดสองจุดใด ๆ บนเส้นรอบวงหรือเส้นโค้ง
ค่ากึ่งกลางพิสัย (mid-range)
ค่ากลางของข้อมูลที่หาได้จากการเฉลี่ยค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดของข้อมูล
ค่าเฉลี่ย (mean)
ทางสถิติ หมายถึง ค่ากลางของข้อมูลแต่ละชุด เช่น ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ำหนัก (weight arithmetic mean)
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตที่ใช้ในกรณีที่ข้อมูลแต่ละค่ามีความสำคัญไม่เท่ากัน เช่น ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบ 4 วิชาซึ่งแต่ละวิชาใช้เวลาเรียนในแต่ละสัปดาห์ไม่เท่ากัน
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตรวม (combined arithmetic mean)
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ำหนักของค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลหลาย ๆ ชุด โดยที่มีจำนวนค่าจากการสังเกตในข้อมูลแต่ละชุดเป็นน้ำหนักถ่วง
ค่าเฉลี่ยฮาร์โมนิก, เอชเอม (harmonic mean , H.M.)
ค่ากลางของข้อมูลชุดหนึ่ง ที่ได้จากการหารจำนวนข้อมูลทั้งหมดด้วยผลบวกของส่วนกลับของข้อมูลชุดนั้น ใช้อักษรย่อ H.M.
ค่ามัธยฐาน (median)
ค่าที่มีตำแหน่งอยู่กึ่งกลางของข้อมูลทั้งหมด เมื่อเรียงค่าของข้อมูลจากน้อยที่สุดไปหามากที่สุดหรือจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
คุณสมบัติการสลับที่ (commutative property)
สำหรับ a, b ทุกตัวในเซต A กับโอเปอเรชัน * จะมีคุณสมบัติการสลับที่เมื่อ a * b = b * a เรียกว่า เซต A มีคุณสมบัติการสลับที่สำหรับโอเปอเรชัน *
คุณสมบัติไตรวิภาค (trichotomy property)
คุณสมบัติที่กล่าวถึงการเท่ากันหรือไม่เท่ากัน เช่น ถ้า a และ b เป็นจำนวนจริงแล้ว a = b หรือ a <> b อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
คุณสมบัติปิด (closure property)
เซต A มีคุณสมบัติปิดภายใต้โอเปอเรชัน * ใด ๆ ถ้า a, b เป็นสมาชิดใน A แล้วสมาชิกที่เกิดขึ้นใหม่จาก a * b จะต้องเป็นสมาชิกใน A ด้วย
คู่อันดับ (orderen pair)
คู่ของสมาชิกที่มาจากเซต A และเซต B เขียนได้ในรูป (a, b) เรียก a ว่าสมาชิกตัวหน้าของคู่อันดับ และเรียก b ว่า สมาชิกตัวหลังของคู่อันดับ
แคลคูลัส(calculus)
วิชาคณิตศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยการหาอนุพันธ์ และอินทิเกรชันของฟังก์ชัน
โคออร์ดิเนต (coordinate)
คู่อันดับซึ่งแสดงตำแหน่งของจุดในระนาบ
จำนวนจริง (real number)
จำนวนที่เป็นสมาชิกอยู่ในเซตที่เกิดจากยูเนียนของเซตของจำนวนตรรกยะ และเซตของจำนวนอตรรกยะ
จำนวนจริงบวก (positive real number)
จำนวนจริงที่มากกว่าศูนย์หรือจำนวนที่แทนได้ด้วยจุดที่อยู่ทางขวามือของจุดแทนศูนย์บนเส้นจำนวน
จำนวนจริงลบ (negative real number)
จำนวนจริงที่น้อยกว่าศูนย์หรือจำนวนที่แทนได้ด้วยจุดที่อยู่ทางซ้ายมือของจุดแทนศูนย์บนเส้นจำนวน
จำนวนจินตภาพ (imaginary number)
จำนวนเชิงซ้อน a + bi เมื่อ b # 0
เซต (Set)
กลุ่มของสิ่งของ หรือจำนวนซึ่งมีข้อจำกัดความแน่นอน สามารถบอกได้ว่าสิ่งของ หรือจำนวนนั้นอยู่ในกลุ่มหรือไม่ เรียกสิ่งที่อยู่ในเซตว่าสมาชิก
เซตจำกัด (finite set)
เซตที่มีจำนวนสมาชิกเป็นจำนวนเต็มบวก หรือศูนย์
เซตที่เท่ากัน (identical sets , equal sets)
เซตสองเซตที่มีสมาชิกเหมือนกันทุกตัว
เซตว่าง (null set , empty set)
เซตที่ไม่มีสมาชิก ใช้สัญลักษณ์ หรือ { }
เซตอนันต์ (infinite set)
เซตที่ไม่ใช่เซตจำกัด
ฐานนิยม (mode)
ค่าของข้อมูลที่มีจำนวนมากที่สุดในข้อมูลชุดนั้น
นางสาวนิชา ลำดับพงค์
รหัส 52050878
สาขา เคมีทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ที่มา : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet2/vocabulary/voc1.htm
เขียนโดย Na-chii ที่ 17:16 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: คำศัพท์คณิตศาสตร์
ศัพท์เฉพาะทางอุตุนิยมวิทยา
ความผันผวนของภูมิอากาศ (climate variability)
ระบบภูมิอากาศที่ผันผวนไปจากแบบแผนของภูมิ อากาศที่เคยเป็นอยู่ในอดีต เช่น ในแต่ละปีจะมีช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ซึ่งโดยปกติ จะมีฝนเริ่มตกในปลายเดือนเมษายน (ในกรณีของประเทศไทย) แต่ถ้ามีฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ก็ถือว่ามีความผันผวนของฝนเกิดขึ้น ซึ่งความผันผวนของภูมิอากาศนั้นเกิดได้กับฝน (ปริมาณ ช่วงเวลาที่ตก การเว้นช่วงระยะเวลา) อุณหภูมิ ลม ฯลฯ
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change)
มีหลายหน่วยงานที่พยายามนิยามคำศัพท์นี้ จึงทำให้มีคำนิยามหลายอย่าง เช่น (1) นิยามโดย WMC(ก) โดยทั่วไป หมายถึง ความแตกต่างของรูปแบบภูมิอากาศแบบต่างๆ โดยพิจารณาจากว่ามีองค์ประกอบทางอุตุนิยมวิทยาของพื้นที่ใดที่หนึ่ง ที่แตกต่างจากค่าเฉลี่ยทางสถิติระยะยาว ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากอะไร (เช่น จากการเปลี่ยนแปลงของรังสีจากดวงอาทิตย์ การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบวงโคจรของโลกในระยะยาว กระบวนการทางธรรมชาติ หรือจากการกระทำของมนุษย์)(ข) ใช้ในความหมายเฉพาะที่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย (mean value) ขององค์ประกอบทางอุตุนิยมวิทยา (โดยเฉพาะอุณหภูมิและปริมาณของ precipitation ) ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้มาจากการตรวจวัดในระยะยาวหลายทศวรรษหรือนานกว่า [WMO (1992), International Meteorological Vocabulary, 2nd Edition, Publication No. 182, WMO's Website] (2) UNFCCCการเปลี่ยนแปลงของภูมิอกาศที่มีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกบอของบรรยากาศโลก ซึ่งมากไปกว่าการผันผวนของภูมิอากาศ ที่สังเกตุได้ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน [IPCC (1995), Climate Change: A Glossary by the Intergovernmental Panel on Climate Change, IPC's Website](3) IPCCการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ที่เปรียบเทียบกับบันทึกการสังเกตุภูมิอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในระบบภูมิอากาศ หรือจากปฏิสัมพันธ์ขององค์ประกอบของระบบภูมิอากาศ หรือจากปัจจัยภายนอก ทั้งจากปัจจัยทางธรรมชาติ หรือจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยทั่วไป จะไม่สามารถแยกแยะปัจจัยที่เป็นสาเหตุได้ชัดเจน ในการทำนายการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของอนาคตของ IPCC นั้น โดยทั่วไปจะพิจารณาเฉพาะอิทธิพลต่อภูมิอกาศ ที่มาจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น หรือจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ [IPCC (1995), Climate Change: A Glossary by the Intergovernmental Panel on Climate Change, IPC's Website]
ระบบภูมิอากาศ (climate system)
ประกอบด้วยระบบ 5 ระบบที่ปฏิสัมพันธ์กัน คือ(ก) บรรยากาศ (atmosphere) หรือบางครั้งก็เรียก อากาศภาค ซึ่งประกอบด้วยก๊าซต่างๆ ในอากาศ ที่อยู่บนผิวโลก(ข) อุทกนิเวศ (hydrosphere) ซึ่งประกอบด้วยสิ่งที่เป็นน้ำและของเหลวที่อยู่ใต้ผิวโลกและบนผิวโลก(ค) น้ำแข็งบนโลก (cryosphere) หิมะและน้ำแข็งที่อยู่ใต้ผิวโลกและบนผิวโลก(ง) ธรณีภาค (lithosphere) ส่วนเป็นผืนดินของผิวโลก เช่น หิน ดิน(จ) ชีวมณฑล (biosphere) สิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อยู่บนโลก ทั้งพืช สัตว์ รวมทั้งอินทรีย์วัตถุต่างๆ
ภูมิอากาศ (climate)
ลักษณะเงื่อนไขของบรรยากาศ ที่อยู่บริเวณใกล้ผิวโลก ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งได้จากการเฉลี่ยข้อมูลสภาพอากาศระยะยาว (หลายทศวรรษ แต่ในวงการอุตุนิยมวิทยาจะใช้ค่าเฉลี่ย 30 ปี) เมื่อกล่าวถึงภูมิอากาศควรต้องมีการระบุถึงขอบเขตของพื้นที่ เช่น ภูมิอากาศละติจูด (latitudinal climates) ภูมิอากาศของภูมิภาค (regional climate) และภูมิอากาศท้องถิ่น
ภูมิอากาศละติจูด (latitudinal climates)
ภูมิอากาศที่แบ่งตามระยะห่างจากเส้นศูนย์สูตร เช่น ภูมิอากาศขั้วโลก (polar climate) ภูมิอากาศเขตอบอุ่น (temperate climate) ภูมิอากาศเขตกึ่งร้อนชื้น (sub-tropical climate) ภูมิอากาศร้อนชื้น (tropical climate) ประเทศไทยมีภูมิอากาศหลายลักษณะ เช่น ภาคใต้มีภูมิอากาศร้อนชื้น
ภูมิอากาศของภูมิภาค (regional climate)
ภูมิอากาศที่ครอบคลุมเขตภูมิภาคหนึ่งๆ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากที่อื่น ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อภูมิอากาศของภูมิภาค เช่น ระยะห่างจากเส้นศูนย์สูตร มุมองศาของผิวโลกกับดวงอาทิตย์ สัดส่วนองค์ประกอบของดินและน้ำ ระบบลม เป็นต้น ตัวอย่างของภูมิอากาศของภูมิภาค เช่น ภูมิอากาศใกล้ทะเล (maritime climate) ภูมิอากาศทวีป (continental climate) ภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterrannean climate) ภูมิอากาศทะเลทราย (desert climate)
สภาพอากาศ (weather)
การผันผวนของเงื่อนไขบรรยากาศในแต่ละวัน ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งโดยปกติ หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาจะตรวจขัดปรากฎการณ์ของสภาพอากาศรายวันแค่เพียงบางสิ่ง เช่น อุณหภูมิอากาศ ปริมาณการตกของฝน (หรือหิมะ หรือลูกเห็บ) ความกดอากาศ ความชื้น ลม แสงแดด และเมฆที่คลุมพื้นที่
ค่าเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ (carbon dioxide equivalent - CDE)
เป็นค่าที่ระบุปริมาณก๊าซเรือนกระจกชนิดต่างๆ ที่มีศักยภาพในการทำให้เกิดโลกร้อน (global warming potential - GWP) ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (โดยทั่วไปใช้ระยะเวลา 100 ปี) เท่ากันกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะได้มาจากการคูณปริมาณก๊าซเรือนกระจกนั้นกับค่าศักยภาพในการทำให้โลกร้อน (GWP) ยกตัวอย่างเช่น ค่า GWP ของก๊าซไนตรัสออกไซด์เท่ากับ 298 และของก๊าซมีเทนเท่ากับ 25 ซึ่งหมายความว่า การปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ 1 ตัน จะมีค่าเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 298 ตัน ในขณะที่ที่การปล่อยก๊าซมีเทน 1 ตันจะเท่ากับปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 25 ตันยังไม่ค่อยแน่ชัดว่า ค่า GWP ของก๊าซเรือนกระจกแต่ละชนิดมีค่าเท่าไหร่ ในที่นี้จึงขอแสดงค่าที่พบในแหล่งต่างๆ คือก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ มีค่า GWP = 1 ก๊าซมีเทน มีค่า GWP = 21 ถึง 25ก๊าซไนตรัสออกไซด์ มีค่า GWP = 298 ถึง 310 ก๊าซฮาโลคาร์บอน (HFC) มีค่าGWP = 140 ถึง 11,700 ก๊าซซัลเฟอร์ เฮกซาฟลูออไรด์ มีค่า GWP = 23.90
คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (Equivalent carbon dioxide - CO2e)
คือ ค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะมีผลในการแผ่รังสี (radiative forcing) เท่ากันกับก๊าซเรือนกระจกต่างๆ โดยค่าคาร์บอนเทียบเท่านี้จะมีมีหน่วยเป็นส่วนในล้านส่วนโดยปริมาตร (ppmv) ยกตัวอย่างเช่น ค่าคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) ของบรรยากาศโลกในปี พ.ศ. 2293 จะเท่ากับ 278 ppmv และเพิ่มขึ้นเป็น 412 ppmv ในปี พ.ศ. 2541
การเปลี่ยนเฟสของการกวัดแกว่งของลมทุกรอบสองปี (Quasi-Biennial Oscillation - QBO)
เป็นการพัดสลับกันของลมบริเวณศูนย์สูตรเป็นช่วงๆ ของลมตะวันออกและลมตะวันตกในชั้นสตราโตสเฟียร์ โดยแต่ละช่วงจะกินเวลากว่า 2 ปี คือ ประมาณ 28 - 29 เดือน โดยลมจะเกิดขึ้นในด้านบนของชั้นสตราโตเฟียร์ด้านล่าง และค่อยๆ ขยายลงมาด้านล่างราว 1 กิโลเมตรทุกๆ เดือน จนกระทั่งหมดกำลังลงในเขตโทรโพพอส (tropopause) ซึ่งเป็นบริเวณรอยต่อระหว่างชั้นสตราโตสเฟียร์และชั้นโทรโพสเฟียร์ การขยับตัวลงด้านล่างของลมตะวันออกนั้นค่อนข้างจะไม่เป็นแบบแผนเหมือนลมตะวันตกเท่าไหร่นัก และมีความแรงของลมเป็นเกือบสองเท่าของลมตะวันตก ในทางด้านบนของกระแสลม QBO นี้ กระแสลมตะวันออกจะเป็นกระแสหลัก ในขณะที่ด้านล่างกระแสลมตะวันตกจะเป็นกระแสหลัก ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อบรรยากาศโลกหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้โอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ลดลง การเปลี่ยนแปลงลมมรสุม และการหมุนเวียนของบรรยากาศในชั้นสตราโตสเฟียร์ในช่วงฤดูหนาวของเขตขั้วโลกเหนือ ซึ่งทำให้เกิดอากาศอบอุ่นขึ้นอย่างกระทันหันในเขตดังกล่าว
เอลนิลโญ-ลาณีญา (El Nino - La Nino)
ในช่วงปรากฏการณ์ลาณีญา กระแสลมในมหาสมุทรแปซิฟิคจะพัดไปทางทิศตะวันตก ทำให้น้ำอุ่นที่อยู่ด้านบนของผิวน้ำ ไหลไปที่ชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย และหมู่เกาะต่างๆ ที่อยู่ทางเหนือของออสเตรเลีย เมื่อน้ำอุ่นไหลไปทางตะวันตก กระแสน้ำฮัมโบลด์ที่เย็นกว่าที่อยู่ด้านล่างก็จะไหลขึ้นด้านบน บริเวณชายฝั่งทะเลแปซิฟิคของทวีปอเมริกาใต้ เมื่อกำลังกระแสลมอบอุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิคอ่อนตัวลง ปรากฏการณ์เอลนิโญก็จะเริ่มขึ้น โดยน้ำอุ่นที่เคยพัดไปทางตะวันตกจะไหลย้อนกลับไปทางตะวันออก และดันกระแสน้ำเย็นฮัมโบลด์กลับไปอยู่ใต้ทะเลเหมือนเดิม กระแสน้ำอุ่นที่ไหลกลับไปนี้จะพัดพาไอน้ำจากมหาสมุทรเข้าไปที่ทวีปอเมริกาใต้ ทำให้เกิดฝนตกในทวีปนั้น ส่วนน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกจะเย็นตัวลง ทำให้น้ำจากมหาสมุทรระเหยน้อยลง ส่งผลทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งในทวีปออสเตรเลีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเอลนิโญรุนแรงสุดขั้ว จะเกิดภาวะแห้งแล้ง น้ำท่วม และสภาพอากาศผันผวนจะเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ เกือบสองในสามของโลก โดยปรากฏการณ์เอลนิโญที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2540-41 จนถูกบันทึกว่าเป็นปีที่เกิดภาวะแห้งแล้งในประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวาง และเกิดไฟป่าในหลายแห่งทั่วโลก
ทฤษฎีมิแลนโควิทช์ (Milankovitch Theory)
ได้พยายามอธิบายการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกในระยะยาวว่า เกิดจากปรากฏการณ์ 3 เรื่อง คือ วงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ องศาของแกนโลก และการส่ายไปมาของแกนหมุนของโลก ซึ่งทั้งสามปรากฏการณ์นี้เป็นวัฏจักรธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาต่างกันวัฏจักรของวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ (Earth’s eccentricity) เป็นวัฏจัการที่ใช้เวลานานที่สุด โดยวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ ที่เป็นวงรีนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 100,000 ปี เมื่อวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรีมากที่สุด ในช่วงนั้นโลกก็จะทั้งอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากที่สุด และห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุดด้วย ในช่วงดังกล่าว ความเข้มข้นของรังสีดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกในแต่ละช่วงฤดูกาลของปีก็จะแตกต่างกันอย่างมาก ในช่วงปัจจุบันนี้ วงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ไม่ได้เป็นรูปวงรีมากนัก ทำให้ความแตกต่างของรังสีดวงอาทิรย์ที่ส่องมาถึงผิวโลกในช่วงเดือนมกราคมแตกต่างจากรังสีที่ส่องมาในช่วงเดือนกรกฎาคม เพียงแค่ 6% เท่านั้น แต่ในช่วงที่วงโคจรเป็นรูปวงรีมากๆ ความแตกต่างของรังสีในช่วงต้นปีและกลางปีอาจมากถึง 20-30% เลยทีเดียว การเปลี่ยนแปลงของรังสีดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกนี้มีผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศบนโลกวัฏจักรที่สองจะใช้เวลาราว 41,000 ต่อรอบ ซึ่งวัฏจักรนี้เกี่ยวข้องกับแกนของโลก (axial tilt) ที่มีมุมเอียงที่ต่างกันไป ในช่วงต่างๆ มุมเอียงของแกนโลกจะอยู่ราว 22.1 - 24.5 องศา ซึ่งทำให้มีผลต่อบริเวณบนโลกที่รังสีอาจตกกระทบแตกต่างกันออกไป ในปัจจุบันแกนโลกเอียงอยู่ในช่วงกลางๆ ของมุมเอียง คือประมาณ 23.44 องศาส่วนวัฏจักรที่สาม ซึ่งเป็นวัฏจักรที่สั้นที่สุดคือใช้เวลาราว 26,000 ปีต่อรอบ ซึ่งวัฏจักรนี้จะสัมพันธ์กับการส่ายไปมาของแกนโลก (precession) โดยในช่วงหนึ่งของวัฏจักรแกนโลกจะชี้ไปที่ดาวเหนือและแกนโลกจะค่อยๆ ย้ายไปชี้ที่ดาว Vega การส่ายของแกนโลกนี้มีผลต่อความรุนแรงของฤดูกาล กล่าวคือเมื่อแกนโลกทางเหนือชี้ตรงไปที่ดาว Vega ฤดูหนาวก็จะหนาวเย็นเป็นพิเศษ ในขณะที่ฤดูร้อนก็จะร้อนมากขึ้นเป็นพิเศษด้วย
น.ส. อนค์รัตน์ ศรีลารักษ์
รหัส 52050929
สาขา เคมีทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
เขียนโดย kingood ที่ 02:46 0 ความคิดเห็น
ศัพท์เฉพาะทางด้านการบิน
เขียนโดย palm.kawintip ที่ 02:17 0 ความคิดเห็น
วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552
คำศัพท์ทางวิชา ฟิสิกส์
14.พลังงาน คือ สิ่งซึ่งสามารถทำงานได้ มีหน่วยวัดเป็นจูล
23.Primary coil ขดลวดปฐมภูมิ ขดลวดในหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งป้อนแรงเคลื่อนไฟฟ้าสลับเข้าไปให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าในขดลวดทุติยภูมิ
24.Secondary coil ขดลวดทุติยภูมิ ขดลวดในหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าสลับเหนี่ยวนำเกิดขึ้น เมื่อป้อนแรงเคลื่อนไฟฟ้าเข้าไปในขดลวดปฐมภูมิ หม้อแปลงบางตัวมีขดลวดทุติยภูมิมากกว่า 2 ชุด
25.Turn ratio อัตราส่วนขดลวด เป็นอัตราส่วนระหว่างขดลวดปฐมภูมิกับขดลวดทุติยภูมิ มีค่าเท่ากับอัตราส่วนระหว่างแรงเคลื่อนไฟฟ้าในขดลวดปฐมภูมิกับทุติยภูมิ
26.Friction force or friction แรงเสียดทานเป็นแรงที่กระทำต้านการเคลื่อนที่ของผิววัตถุ 2 ชนิด ที่แตะกันเกิดขึ้นจากแรงระหว่างโมเลกุลของผิวทั้งสอง แรงเสียดทานมี 2 ชนิดคือ แรงเสียดทานสถิต และแรงเสียดทานจลน์
27.ตำแหน่งเชิงมุม คือ มุมที่วัตถุแข็งเกร็งหมุนรอบแกนคงที่หนึ่ง หน่วยเป็นเรเดียน
28.เรโซแนนท์เป็นปรากฎการณ์ที่แรงจากภายนอกสามารถส่งถ่ายพลังงานให้กับระบบได้สูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่แอมพลิจูดที่มากขึ้นในแต่ละรอบของการสั่น เรโซแนนท์สามารถเกิดกับการเคลื่อนที่ได้ทุกชนิด ที่เป็นการสั่น และไม่จำเป็นต้องเป็นมวลที่ติดกับสปริงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่นการขึ้นและลงของน้ำ ในแม่น้ำ ทะเล และมหาสมุทร เป็นต้น ถือเป็นการสั่นสะเทือนได้เช่นเดียวกัน ที่อ่าวฟันดี้ (Fundy) ประเทศแคนาดา ระดับน้ำต่ำสุดและสูงสุดจะห่างกันประมาณ 15 m ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก ปรากฏการณ์นี้คือ การเรโซแนนท์
30.hydrogen peroxide , peroxide of hydrogen H2 O2 ของเหลวข้นคล้ายน้ำเชื่อม จุดเดือด 150.2 องศาเซลเซียส ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ขายกันทั่วไปเป็นสารละลายของสารประกอบบริสุทธิ์ในน้ำ สลายให้ออกซิเจนได้ง่าย ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อและยาฟอกสี ความแรงของสารละลายมักบอกเป็นความแรงทางปริมาตร เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 10 ปริมาตร จะสลายให้ก๊าซออกซิเจนออกมา 10 เท่า ของปริมาตรเดิมของมัน
31.กฎของเกาส์ เราสามารถคำนวณหาสนามไฟฟ้าของจุดประจุได้โดยตรงจากกฎของคูลอมบ์ แต่ถ้าเป็นประจุที่กระจายอย่างต่อเนื่อง ต้องผ่านการอินทิเกรต และขั้นตอนการอินทิเกรต บางกรณีซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามหลังจากกฎของคูลอมบ์ได้ตั้งขึ้นไม่นาน นายเกาส์ ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน และเป็นนักฟิสิกส์ และนักดาราศาสตร์ด้วย ได้ค้นพบวิธีทางคณิตศาสตร์ที่ลดทอนการอินทิเกรตให้ง่ายขึ้น โดยการหาความสัมพันธ์ระหว่าง ฟลักซ์ของสนามไฟฟ้ากับประจุซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของฟลักซ์
40.เดซิเบล เป็น หน่วยที่ใช้เปรียบเทียบระดับของกำลัง กล่าวคือ กำลังของสองระดัง เช่น P0 และ P เราเรียกว่าต่างกัน n เดซิเบล หน่วยเดซิเบลนี้มักใช้ในการบอกความเข้มของเสียง โดยที่ P เป็นความเข้มของเสียงที่ระดับหนึ่งที่ต้องการบอก และ P0 เป็นความเข้มของเสียงที่ระดับมาตรฐาน ซึ่งปกติถือเอาความเข้มเสียงซึ่งมีค่าต่ำสุดที่หูมนุษย์สามารถจะได้ยินและมีความถี่เดียวกับ P
44. ชัตเตอร์ เป็น แผ่นทึบแสงที่ทำหน้าที่ปิด – เปิด ให้แสงเข้ามาในกล้อง ซึ่งเราสามารถตั้งช่วงเวลาการให้แสงผ่านเข้าไปในกล้องได้โดยการปรับความเร็วชัตเตอร์ ถ้าวัตถุมีความสว่างมากก็เพิ่มความเร็วชัตเตอร์ขึ้น แต่ถ้าวัตถุมีความสว่างน้อยก็ต้องลดความเร็วชัตเตอร์ลง
45.ชันต์ คือ ตัวต้านทานที่มีค่าน้อย ๆ นำมาต่อขนานกับแกลแวนอมิเตอร์ เพื่อดัดแปลงแกลแวนอมิเตอร์ให้วัดกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่มีค่าเกินค่ากระแสสูงสุดของแกลแวนอมิเตอร์ (Ig) ได้
46.พลังงานกลเป็นพลังงานที่เกี่ยวข้อง กับการเคลื่อนที่โดยตรง เช่น ก้อนหินที่อยู่บนยอดเนินจะมีพลังงานศักย์กล (Potential mechanical energy) อยู่จำนวนหนึ่ง ขณะที่ก้อนหินกลิ้งลงมาตามทางลาดของเนิน พลังงานศักย์จะลดลง และเกิดพลังงานจลน์กลของการเคลื่อนที่ (Kinetic mechanical energy) ขึ้นแทน สิ่งมีชีวิตอาศัยพลังงานรูปนี้ในการทำงานที่ต้องมีการ เคลื่อนไหวเป็นประจำ เช่น การเดิน การขยับแขนขา การหยิบวัตถุ เป็นต้น
47.โพรเจกไทล์ เป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุภายใต้อิทธิพลของสนามความโน้มถ่วงของโลกตลอดเวลา แนวการเคลื่อนที่มีลักษณะเป็นแนวโค้งพาราโบลา ซึ่งมีการกระจัดเกิดขึ้น 2 แนวพร้อมกัน คือในแนวดิ่งซึ่งเหมือนการเคลื่อนที่วัตถุตกแบบเสรีและในแนวราบซึ่งเหมือนการเคลื่อนที่ของวัตถุด้วยความเร็วคงตัว
48. เลขควอนตัม quantum number เป็นตัวเลขจำนวนเต็มที่มีค่าตั้งแต่ 1 ขึ้นไป จนถึงค่าอนันต์
N = 1,2,3,4,…
ตัวเลขควอนตัม ใช้บอกถึงสภาวะของอนุภาคขนาดเล็ก ๆ ในระดับอะตอมซึ่งตัวเลขควอนตัมแต่ละตัวจะทำให้รู้ถึงสมบัติต่าง ๆ ของอนุภาคในสภาวะนั้น ๆ ได้ เช่น ระดับพลังงาน โมเมนตัมเชิงมุม รัศมีวงโคจร อัตราเร็ว
49.ตัวต้านทานแปลี่ยนค่าได้ (Variable resistor) เป็นอุปกรณ์ที่ความต้่านทานเปลี่ยนได้โดย การเลื่อนจุดสัมผัส มีลักษณะเป็นขดลวดรอบแกนหรือแผ่นโค้ง ซึ่งมีจุดสัมผัสแตะอยู่ตัวต้านทานเปลี่ยนค่าได้สามารถใช้เป็นตัวแบ่งศักย์ไฟฟ้า เรียกว่า โพเทนชิออมิเตอร์
50. วีตสโตนบริดจ์ (Wheatstone bridge) เป็นวงจรที่ใช้วัด ความต้านทาน เมื่อเข็ม แกนแวนอมิเตอร์ชี้เลข 0 จะสามารถคำนวนความต้านทานที่ไม่รู้ค่าได้ จากตัวต้านทานที่รู้ค่าอีก 3 ตัวมิเตอร์บริดจ์ เป็นวงจรวีตสโตนบริดจ์ ชนิดหนึ่งซึ่งแทนตัวต้านทานที่รู้ค่า 2 ตัวด้วยเส้นลวดความต้านทานสูงยาว 1 เมตร จุดแตะที่เส้นลวดนี้ต่อกับแกลแวนอมิเตอร์
คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมีทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
รหัสนักศึกษา 52050907
เขียนโดย PADNOII ที่ 19:17 0 ความคิดเห็น
ศัพท์เฉพาะทางนิติวิทยาศาสตร์
analyzing materials การวิเคราะห์วัสดุ
antigens แอนติเจน
antibody แอนติบอดี
applications of scientific techniques การประยุกต์เทคนิคทางวิทยาศาสตร์
assay การตรวจ
atomicphysics ฟิสิกส์อะตอม
authentication systems ระบบการยืนยันบุคคลตัวจริง
authenticity verification ความเป็นเจ้าของ
automated fingerprint ลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ
autopsy การผ่าศพ
biological evidence พยานหลักฐานทางชีววิทยา
biological evidence Investigation การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางชีววิทยา
biometric ไบโอเมทริกซ์
biometric authentication systems ระบบการยืนยันบุคคลตัวจริงทางไบโอเมทริกซ์
biometric evaluation method วิธีการประเมินไบโอเมทริกซ์
biometric systems ระบบไบโอเมทริกซ์
biometric systems error ความผิดพลาดของระบบไบโอเมทริกซ์
biometric recognition techniques เทคนิคการรู้จำไบโอเมทริกซ์
blood testing การตรวจเลือด
civil law กฎหมายแพ่ง
civil procedure law กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
clinical ทางคลินิก
coating materials สารเคลือบผิว
collection การเก็บรวบรวม
collisions การชน
commission of a crime การประกอบอาชญากรรม
comparative automated fingerprint การตรวจเปรียบเทียบลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ
compare evidence เปรียบเทียบพยานหลักฐาน
computer fraud การฉ้อโกงทางคอมพิวเตอร์
deductive reasoning การหาเหตุผลเชิงนิรนัย
density patterns รูปแบบความหนาแน่น
detecting สืบหา
determination การตรวจหา
diagnosis การวินิจฉัย
diagnostic methods for DNA วิธีการวินิจฉัยดีเอ็นเอ
digital image processing การประมวลผลภาพดิจิตัล
digital photography system ระบบการถ่ายภาพดิจิตัล
dimensions มิติ
document processing การประมวลผลเอกสาร
evidence หลักฐาน
evidence identification พยานหลักฐาน
examination of blood stain การตรวจคราบเลือด
examination of handwriting การตรวจพิสูจน์ลายมือ
examination of skull sinus การตรวจลักษณะโพรงอากาศที่กะโหลกศีรษะ
excretory system ระบบขับถ่าย
expert witness พยานผู้ชำนาญการ
expert witness in court พยานผู้ชำนาญการในชั้นศาล
exploratory เชิงการตรวจสอบ
exploratory data analysis การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงการตรวจสอบ
explosive วัตถุระเบิด
explosive residues เศษวัตถุระเบิด
genetic property of serumสมบัติทางพันธุกรรมของน้ำเหลือง
gun shot เขม่าดินปืนsaliva stain คราบน้ำลาย
ผู้เขียน: น.ส.ณิชา มุริจันทร์
รหัสนักศึกษา: 52050864
สาขา: เคมี-สิ่งแวดล้อม
เขียนโดย พริม ที่ 11:23 0 ความคิดเห็น
ศัพท์เฉพาะทางข่าวเทคโนโลยีสารสนเทศ
1
Data
ข้อมูล ทุกสิ่งที่นำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
2
Database
ฐานข้อมูล ที่รวมของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน และจัดเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ค้นหาได้ง่าย
3
Digital
ดิจิตอล , การแสดงข้อมูลเป็นตัวเลข
4
File
แฟ้มข้อมูล กลุ่มของเรคคอร์ดตั้งแต่ 1 เรคคอร์ด ขึ้นไป รวมถึง มีความหมายเกี่ยวพันในเรื่องเดียวกัน เช่น เรคคอร์ดของพนักงงานทั้งหมดในบริษัท
5
Hardware
อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น จอมอนิเตอร์ เคน ฮาร์ดดิสก์
6
Software
โปรแกรมควบคุมระบบ โปรแกรมอำนวยความสะดวกหรือ โปรแกรมประยุกต์ต่างๆ (software package : โปรแกรมสำเร็จรูป)
7
Login
การติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์
8
Logout
การเลิกติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เลิกการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์
9
Load
บรรจุ การบรรจุโปรแกรมจากแผ่นจานแม่เหล็ก ลงสู่หน่วยความจำหลักชองเครื่องคอมพิวเตอร์
10
Modem
โมเด็ม เป็นอุปกรณ์รอบนอกชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถส่งและ รับข้อมูลผ่านทางสายโทรศัพท์ได้ อุปกรณ์สื่อสารข้อมูลนี้ มีหน้าที่แปลงสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเทอร์มินอลเป็นสัญญาณไฟฟ้า ส่งผ่านสายโทรศัพท์ และเปลี่ยนสายสัญญาณไฟฟ้ากลับมาเป็น สัญญาณคอมพิวเตอร์เมื่อถึงปลายทาง "Modulate Demodulator"
11
On-line
การทำงานโดยการติดต่อสื่อสาร โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานโดยอยู่ในความควบคุมของพีซี เช่น เครื่องพิมพ์ ถ้า On-line จะรับข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ จะไปรับข้อมูลจากแป้นพิมพ์
12
Network
เครือข่าย ระบบที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่าง เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเทอร์มินอล หรือ1. การเป็นสมาชิกมีสายสัมพันธ์กับองค์กร เพื่อประโยชน์ทางข้อมูล ข่าวสารและวิชาชีพ 2. ในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เครือข่ายการสื่อสารผ่านส่งข้อมูลข่าวสาร ระหว่างเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในระบบนั้น เช่น เครือข่ายของระบบโทรคมนาคม, เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเป็นกลุ่ม โดยระบบเครือข่ายมีทั้งระบบเครือข่ายคลุมพื้นที่กว้าง (LAN :Local Area Network) , ระบบเครือข่ายส่วนบุคคล หรือกึ่งส่วนบุคคลปกติไว้ใช้รับส่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ (VAN : Value-Added Network), ระบบเครือข่ายในเขตปริมณฑล (MAN : Metropolitan Area Network) ระบบเครือข่ายในมหาวิทยาลัย (CAN : campus Area Network)
13
Password
รหัสผ่าน รหัสซึ่งเป็นความลับ รู้เฉพาะผู้ใช้งานเพียงคนเดียว ใช้ในการติดต่อระบบที่มีผู้ใช้งานหลายคน เพื่อป้องกันบุคคลอื่นซึ่งไม่มีหน้าที่เข้าถึงโปรแกรม หรือแฟ้มข้อมูล
14
IP
หรือ Internet protacal มาตรฐานในการติดต่อสื่อสารเลเยอร์ (Layer) ที่ 3 (มาตรฐาน ISO มี 7 Layer ) ของเครือข่ายที่ควบคุมกิจกรรมในการติดต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบอินเตอร์เน็ต
15
IRC
หรือ Internet Relay Chat คือ โปรแกรมบริการ ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับผู้อื่นในระบบอินเตอร์เน็ต
16
ISP
หรือ Internet Service Provider หมายถึง ผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ต โดยคิดค่าบริการจากเวลาในการใช้งาน ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับ บริ ษัทของแต่ละประเทศ ตัวอย่างผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย เช่น เอเชียเน็ต ทรูอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
17
MIME
ย่อมากจาก Multipurpose internet Mail Extensions มาตรฐานสำหรับระบุชนิดของข้อมูล ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อการแนบไฟล์ไปกับอี-เ มล์ (E-mail) แต่ต่อมาถูกใช้ในหลายๆ งาน เช่น ระบบเวบ (Web) ด้วย เช่น เท็กซ์/เอชทีเอ็มแอล (text/html) คือ ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร และเป็นข้อมูล HTML
18
SLIP
หรือ Serail Line Internet Protocalข้อกำหนด หรือวิธีของการเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตแบบอนุกรม โดยผู้ใช้หรือบริษัทใช้สายโทรศัพท์และโมเด็ม (Modem) โดยไม่ต้องผ่าน เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Host computer) เพื่อเชื่อมโยงกับระบบอินเตอร์เน็ตการเชื่อมโยง “SLIP” ต้องเช่าจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP)
19
TCP/IP
หรือ Transmission Control Protocol/Internet Protocol กฏเกณฑ์ หรือมาตรฐานที่ใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ ที่แตกต่างกันในระบบอินเตอร์เนต ให้ติดต่อกันได้โดย IP ทำหน้าที่แยกข่าวสาร (Message) เป็น Package ย่อยๆ ส่วน TCP ทำหน้าที่จัด และรวม packets ทั้งหมดเป็นข่าวสาร
20
VOIP
ย่อมาจาก Voice Over IP หรือ Voice Over Internet Protocol เทคโนโลยีส่งข้อมูลแบบเสียง โดยนำข้อมูลเสียงมา แปลงให้อยู่ในรูปของ Packet แบบ IP แล้วส่งไปในเครือข่าย
21
CAD
Computer Aided Design การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ หรือเขียนแบบเครือข่าย
22
CAI
Computer Aided Instruction การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในการสอนวิชาความรู้ต่างๆ
23
CERT
Computer Emergency Response Teamองค์การที่รับผิดชอบเกี่ยวกับไวรัสชนิดต่างๆ รวมทั้งบริการส่งอี-เมล์ (e-mail) เตือนภัยต่างๆ ทั้งไวรัสจริง และไวรัสปลอม http://www.cert.org/
24
CIAC
Computer incident Adcisory Capabilityหน่วยงานหนึ่งในอเมริกาที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับรายชื่อไวรัสในคอมพิวเตอร์ที่มีจริง และที่หลอกเล่น รวมทั้งคำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ในแวดวงคอมพิวเตอร์
25
Computer
อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูล ที่อาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์อื่นที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่างๆ โดย คุณสมบัติที่สำคัญของคอมพิวเตอร์คือ การที่สามารถกำหนดชุดคำสั่งล่วงหน้าได้ หรือโปรแกรมได้เ ครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความถูกต้อง และมีความรวดเร็วหรือเครื่องจักรสมองกล เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานได้หลายอย่าง ตั้งแต่งานพิมพ์เอกสาร บันทึกและประมวลผลข้อมูล คำนวณ การทำบัญชี การใช้เป็นเครื่องมืออัตโนมัติ เป็นสำนักงานอัตโนมัติ และใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานด้านข้อมูล และสารสนเทศ เป็นต้น คอมพิวเตอร์สามารถแบ่งตามความสามารถในการทำงาน ได้หลายแบบ ตั้งแต่ไมโครคอมพิวเตอร์หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มินิคอมพิวเตอร์ เมนเฟรม ไปจนถึง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
26
Computer Down
การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน ณ ขณะนั้นเนื่องจากเสีย กำลังซ่อมบำรุง กำลังปรับปรุงระบบใหม่ หรือกำลังพัฒนา(w)โปรแกรมต่างๆ เป็นต้น
27
Host Computer
เครื่องคอมพิวเตอร์หลัก ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตโดยตรง เรียกว่า “คอมพิวเตอร์แม่ข่าย”
28
SCSI
Small Computer System Interfaceการเชื่อมโยงแบบสมรรถนะสูงระหว่าง อุปกรณ์กับข้อมูลความเร็วสูงกับบัสของเซิร์ฟเวอร์ (Server) สามารถใช้กับอุปกรณ์ภายนอก คล้าย EDIE แต่มีราคาสูงกว่า สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันมากกว่า 15 ตัวความเร็วสูงและแม่นยำประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่า EIDE
29
M-Commerce
การทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านอุปกรณ์ไร้สาย หรืออุปกรณ์มือถือต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ เครื่องโน้ตบุ๊ค ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี WAP(Wireless Application Protocol) และบูลทูธ (Bluetooth)
30
EDI
Electronic Data Interchange หมายถึง กระบวนการที่ช่วยให้องค์กร ทางธุรกิจสามารถแลกเปลี่ยนเอกสาร ที่เป็นแบบฟอร์มต่างๆ เช่น ใบส่งของ ใบสั่งซื้อ หรืออื่นๆ ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้สะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ลดเอกสารลงได้มาก รวมทั้งเชื่อมโยงกกับระบบการควบคลุมคลังสินค้าได้ดี
31
Internet Banking
Web Banking หมายถึง การทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคาร โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน หรือ สอบถามยอดเงิน เป็นต้น
32
WAP
Wireless Application Protocol หมายถึง เทคโนโลยีซึ่งสามารถทำให้อุปกรณ์ไร้สายต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องปาล์ม (Palm) หรือแม้แต่เพจเจอร์ กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับอินเตอร์เน็ตไร้สาย
33
Dynamic Web Page
เป็นเวบเพจ ( Web Page) หรือโฮมเพจ (Home Page) ที่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือรับเปลี่ยนแบบโต้ตอบ โดยขึ้นกับการตอบสนองของผู้ใช้ ที่ใช้ผ่านเวบ เบราเซอร์ (Web Browser) ของผู้ใช้ Dynamic Web Page ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าสามารถควบคุมการค้นหาแฟ้มข้อมูล ฐานข้อมูล และการประยุกต์ใช้งานอย่างอื่นๆ การสร้างอาจใช้รูปแบบ (FORM) ของเอชทีเอ็มแอล (HTML) หรือใช้ซีจีไอ (CGI) หรือใช้ภาษาสคริปต์ (Script) ต่างๆ เช่น Java Script, Jscritp และ VB Script เป็นต้น
34
Static Web Page
เป็นเวบเพจ (Web Page) หรือโฮมเพจ (Home Page) ที่ถูกกำหนดตายตัว จะเปลี่ยนแปลงได ้ในกรณีถูกแทน หรือแก้ไขเพิ่มเติมโดยผู้ควบคุมระบบเท่านั้น ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโต้ตอบ หรือควบคุมการค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลได้
เขียนโดย CHALALAI ที่ 09:49 0 ความคิดเห็น